เพิ่มคำอธิบายภาพปลาทองจัดว่าเป็นปลาที่กินพืช และแมลงน้ำขนาดเล็กเป็นอาหารน่ะนะคะ
มีรูปร่างอ้วน ป้อม มีเกล็ดแบบบางเรียบ ครีบอกกลมแบน ครีบหางเป็นรูปพัด
และค่อนข้างจะเป็นปลาที่ตะกละ โดยสามารถกินอาหารได้ตลอดทั้งวัน
ตัวผู้เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะมีตุ่มสิวขึ้นตามครีบอกและใบหน้า
ส่วนปลาตัวที่ท้อง ช่องท้องจะอูมเป่งออก และเมืื่อถึงเวลาวางไข่
จะวางไข่ตามพืชน้ำ และใช้เวลาฟักออกมาเป็นตัวประมาณ 2 วัน ปลาทอง มีหลากหลายสีด้วยกันค่ะ ตั้งแต่สีแดง สีทอง สีส้ม สีเทา สีดำและสีขาว แม้กระทั่งปลาทองหลายสีในตัวเดียวกัน ในธรรมชาตินั้น ปลาทองชอบอาศัยตามหนองน้ำและลำคลองที่ติดกับแม่น้ำค่ะ และอาจมีอายุยืนยาวได้ถึง 20-30 ปี ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ในปัจจุบันเรามักเลี้ยงปลาทองให้เป็นปลาสวยงามน่ะนะคะ ปลาทองที่เลี้ยงไว้ดูเล่นจะมีช่วงชีวิต ประมาณ 7-8 ปี พบจำนวนน้อยมากที่มีอายุถึง 20 ปี ปัจจุบันประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาทองที่ใหญ่ที่สุด ผู้เลี้ยงมักนิยมให้ปลาทองกินลูกน้ำ ไรน้ำ และตัวอ่อนแมลงชนิดต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันนี้ค่อนข้างมีความสะดวกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาทองค่ะ เพราะเราสามารถให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปแก่ปลาทองได้อีกด้วย สำหรับความยาวของลำตัวปลาทองนั้น มีความยาวแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ค่ะ โดยมีความยาวตั้งแต่ 4-4.5 เซนติเมตร
ปลาทองลูกกอล์ฟใต้น้ำสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยจนเป็นที่รู้จักและยอมรับของทั่วโลกว่าเป็นปลาทองที่แปลกไม่เหมือนใคร
และไม่มีใครเหมือน ปลาทองพันธุ์เกล็ดแก้วนี้เป็นปลาที่ชาวไทยเป็นผู้เพาะพันธุ์ขึ้นสำเร็จเป็นชาติแรกของโลก
ซึ่งปลาทองสายพันธุ์นี้มีลักษณะแตกต่างไปจากปลาทองสายพันธุ์อื่นๆ โดยสิ้นเชิง นั่นคือเป็นปลาทองที่มีลำตัวกลมมากจนคล้ายลูกปิงปอง
โดยเฉพาะเกล็ดบนลำตัวจะมีลักษณะนูนขึ้นจนเป็นตุ่มซึ่งผิดกับเกล็ดของปลาทองโดยทั่วไป
ส่วนหัวมีขนาดเล็กมากซึ่งอาจจัดได้ว่าเป็นปลาทองที่มีส่วนหัวเล็กที่สุดก็
ว่าได้
และจากลักษณะพิเศษเฉพาะนี้ทำให้ปลาทองเกล็ดแก้วดังข้ามทะเลไปสร้างชื่อเสียง
ไกลถึงต่างประเทศให้เป็นที่รู้จัก
ในนามของ "PEARL SCALE GOLDFISH"
สำหรับ
ประวัติความเป็นมาของปลาทองสายพันธุ์นี้ยังไม่ทราบแน่ชัด
เนื่องจากผู้เพาะพันธุ์ไม่ได้นำบันทึกการเพาะออกเผยแพร่จึงไม่อาจสืบทราบ
ประวัติที่มาของปลาทองสายพันธุ์นี้ได้
แต่โชคร้ายที่ถึงแม้ว่าปลาทองพันุ์เกล็ดแล้วจะเป็นปลาทองที่เพาะพันธุ์ขึ้น
ได้ในประเทศไทยเราเองก็ตาม
แต่กลับเป็นปลาที่ไม่ได้รับความนิยมจากนักเลี้ยงในบ้านเรา
เหตุผลเท่าที่ได้ฟังมาเป็นเพราะปลาทองพันุ์นี้เป็นปลาที่เกล็ดยื่นนูนออกมา
ทำให้แลดูไม่น่ารักแถมบางคนบอกดูแล้วน่าเกลียดมากกว่า แต่ถ้าพูดถึงความยากง่ายในการเลี้ยงแล้วปลาทองสายพันธ์นี้จัดอยุ่ในเกณฑ์ค่อนข้างเลี้ยงยากสักหน่อย
เพราะเป็นปลาที่เปราะบางและป่วยเป็นโรคได้ง่าย
สำหรับ
เทคนิคในการเลี้ยงก็ใช้หลักการเดียวกับการเลี้ยงปลาทองทั่วๆ
ไปในปัจจุบันได้มีผู้ทดลองเพาะพันธุ์ปลาทองพันธุ์นี้จนได้ปลาสายพันธุ์ใหม่ๆ
ที่ทีรูปทรงแตกต่างออกไปมากมาย เช่นปลาทองเกล็ดแก้วชนิดหางสั้น ชนิดหางยาว
ชนิดหัววุ้น
และชนิดหัวมุก ฯลฯ
และบ้างก็เน้นไปทางสีสันโดยการผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้ปลาที่มีสีสัน
แปลกๆ
ออกไป แต่จุดใหญ่คือการคงไว้ซึ่งเกล็ดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สำหรับ
ปลาทองเกล็ดแก้วที่เป็นที่นิยมว่าสวยควรมีลำตัวกลมเหมือนลูกปิงปองเกล็ดบนลำ
ตัวจะต้องอยู่ครบทุกเกล็ด
เกล็ดที่ดีควรขึ้นเรียงเป็นระเบียบ ส่วนหัวควรคอดเล็กแล้วปลายแหลม
ส่วนหางควรเบ่งบานแต่จะยาวหรือสั้นก็พิจารณาตามสายพันธุ์ของปลาทองนั้นๆ
สำหรับสีบนลำตัวเท่าที่นิยมเลี้ยงๆกัน
โดยมากจะเป็นปลาที่มีสีขาวสลับแดงอยู่ในตัวเดียวกัน
ปลาที่มีสีขาวทั้งตัวเป็นปลาที่ไม่สู้ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
ขอบคุณที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต |
วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
น้องปลาทองเกล็ดแก้ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น